ขั้นตอนขอวีซ่า อเมริกา - WONDER TRIP
เบอร์โทรติดต่อ

094-313-3883

ขั้นตอนขอวีซ่า อเมริกา

สิงหาคม 10, 2021 | by WONDER TRIP

สหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในประเทศที่ติดอันดับที่ใครหลายคนอยากไปเที่ยวมากที่สุด แต่การจะไปเที่ยวนั้นด่านแรกที่สำคัญที่สุด ก็คือการ ยื่นขอวีซ่าอเมริกา นั่นเอง ต้องใช้เอกสารค่อนข้างเยอะ ต้องมีการสัมภาษณ์ และมีค่าใช้จ่ายอยู่พอสมควร แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไป ขอเพียงเรามีการเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมรับรองมีชัยไปกว่าครึ่ง เรามาลองดูขั้นตอนกันดีกว่าค่ะ รับรองไม่ยากอย่างที่คิด

โดยหลักๆ แล้วการเดินทางไปอเมริกาจะมีวีซ่าอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 

  1. วีซ่าชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)
  2. วีซ่าถาวร (Immigrant Visa)

 โดยในที่นี้เราจะพูดถึงเฉพาะวีซ่าชั่วคราว ซึ่งสามารถแบ่งออกตามวัตถุประสงค์แยกย่อยได้อีก ดังนี้ 

ประเภทวีซ่าตัวย่อแต่ละประเภทวัตถุประสงค์
วีซ่าท่องเที่ยวและเยี่ยมเยียนB-2การท่องเที่ยวภายในประเทศ, เดินทางไปเยี่ยมญาติหรือคนรู้จักที่สนิทสนม, รับการรักษาในด้านสุขภาพ
วีซ่าธุรกิจB-1เดินทางธุรกิจ ประชุม สัมมนาหรือฝึกอบรมระยะสั้น
วีซ่าทำงานE, H (H1B, H2, H-2B, H-3), L, O, P, I, Jนักลงทุน ผู้ประกอบกิจการ
วีซ่าการศึกษาหรือแลกเปลี่ยนF, M, J, B-2นักเรียน นักศึกษา นักเรียนแลกเปลี่ยน

สำหรับบทความนี้ก็จะเน้นไปที่วีซ่าท่องเที่ยว และเยี่ยมเยียนเป็นหลัก นั่นก็คือ B-2 นั่นเอง หรือถ้าไปเพื่อรักษาพยาบาลก็อยู่ในหมวดนี้เช่นกัน 

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา อยู่ได้กี่เดือน?

เอกสารที่จำเป็นสำหรับการ ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา

     เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นทำวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาหรือ B-1/B-2 สำหรับคนไทย มีดังต่อไปนี้

  • หนังสือเดินทาง (มีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป)
  • สเตทเม้นท์ธนาคาร (ย้อนหลัง 6 เดือน)
  • รูปถ่ายวีซ่า (2 ชุด)
  • เอกสารสินทรัพย์ (ถ้ามี)
  • เอกสารทางส่วนบุคคล
  • เอกสารเปลี่ยนชื่อและนามสกุล (ถ้ามี)
  • บัตรประชาชนไทย
  • ทะเบียนบ้าน
  • หลักฐานการทำงานหรือการเป็นเจ้าของธุรกิจ

แม้จะต้องเตรียมเอกสารไปมากมาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางสถานทูตว่าจะขอดูเอกสารนั้นๆ หรือไม่ หลักๆ คือทางเจ้าหน้าที่จะทำการประเมินคุณสมบัติของเราจากหลักฐานหลายๆ ด้าน ทั้งนี้มีเอกสารอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ที่ควรเตรียมไปด้วย เช่น

  • หนังสือชี้แจงหรือจดหมายเชิญที่มีการระบุถึงวัตถุประสงค์ของการเดินทางไปอเมริกา
  • รายละเอียดความตั้งใจของคุณที่จะเดินทางกลับออกมาจากสหรัฐอเมริกาหลังจากการเดินทาง
  • ความสามารถในการชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการเดินทาง รวมทั้งค่าใช้จ่ายอย่างอื่น
  • หลักฐานการจ้างงาน และ/หรือความผูกพันในครอบครัวของคุณ ที่จะแสดงให้ทางสถานทูตเห็นว่าคุณมีความตั้งใจที่จะเดินทางกลับประเทศไทยหลังจากที่สิ้นสุดการท่องเที่ยวหรือทำธุระแล้ว นอกจากนี้หากตัวคุณเองไม่สามารถแสดงจำนวนเงินที่คุณมีให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการเดินทางของคุณ คุณอาจแสดงหลักฐานว่าบุคคลอื่น หรือว่าใครจะช่วยคุณออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย (สปอนเซอร์)

คุณสมบัติที่อาจส่งผลให้ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาไม่ผ่าน

เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา คนไทยจำนวนมากที่ได้โอกาสเดินทางไปอเมริกา แล้วก็แอบหนีวีซ่า เข้าไปทำงานหรือเข้าไปอยู่อาศัยอย่างผิดกฎหมาย ทำให้สถานทูต และสถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยจะมีความเข้มงวดกับการให้วีซ่าในการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อการท่องเที่ยวของคนไทย ซึ่งแม้จะไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีข้อมูลว่าการมีคุณสมบัติต่อไปนี้อาจส่งผลให้ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาไม่ผ่าน เช่น

  • ผู้สมัครทำงานฟรีแลนซ์ และประเภทของงานนั้นไม่มีความมั่นคง
  • ผู้สมัครเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ทำธุรกิจโดยไม่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง
  • ผู้สมัครทำงานประจำ แต่เพิ่งเริ่มทำงานที่ใหม่ หรือทำงานในตำแหน่งที่ได้รับรายได้ต่ำ (ในมุมมองสถานทูต)
  • ผู้สมัครอ้างอิงคนรู้จักหรือสปอนเซอร์ที่อเมริกา แต่คนๆ นั้นทำงานอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่สถานทูตมองว่าคุณอาจเดินทางเพื่อแอบไปทำงานได้
  • ผู้สมัครมีญาติใกล้ชิดที่หนีวีซ่าอยู่ที่อเมริกา
  • ผู้สมัครเดินทางไปเที่ยวอเมริกาคนเดียว
  • ประวัติการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของผู้สมัครในพาสปอร์ตไม่มีเลย หรือมีน้อย
  • ผู้สมัครมีแฟนเป็นคนสัญชาติอเมริกัน (กรณีนี้ควรขอวีซ่าถาวร เช่น K1 หรือ CR1 แทน)
  • ผู้สมัครมีแผนการท่องเที่ยว และการเงินที่ไม่สอดคล้องตามความจริงกับระยะเวลาที่จะเดินทางท่องเที่ยว


ขั้นตอนในการสมัครวีซ่าชั่วคราว

ขั้นตอนที่ 1 : เข้าไปที่เว็บไซต์ www.ustraveldocs.com/th

ศึกษารายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการยื่นคำร้องขอวีซ่าและข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับวีซ่าแต่ละประเภท เลือก ประเภทของวีซ่าชั่วคราว ที่หน้าเว็บเพื่อศึกษาข้อมูลของวีซ่าแต่ละประเภท

ขั้นตอน 2 : กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160)

กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าที่ https://ceac.state.gov/genniv และพิมพ์ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160

ขั้นตอนที่ 3 : สร้างโปรไฟล์ส่วนตัว

สร้างโปรไฟล์ส่วนตัวบนเว็บไซต์ www.ustraveldocs.com/th กรอกข้อมูลประวัติส่วนตัวให้ครบถ้วน จากนั้นเลือกประเภทและที่อยู่ในการจัดส่งเล่มหนังสือเดินทางคืน

ขั้นตอนที่ 4 : ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่า/การสมัครวีซ่า

ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่าซึ่งขอคืนเงินไม่ได้ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) โดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) หรือ ชำระเป็นเงินสดได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา โดยผู้สมัครต้องพิมพ์ใบชำระค่าธรรมเนียม CGI เพื่อนำไปชำระค่าธรรมเนียมที่ธนาคาร

ขั้นตอนที่ 5 : ทำนัดสัมภาษณ์

เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อย ผู้สมัครจะสามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้หลัง 12.00 น. ของวันทำการถัดไป (ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด) หรือหลัง 14.00 น. ของอีก 2 วันทำการถัดไป (หากชำระโดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์)

ขั้นตอนที่ 6 : เดินทางมาสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตฯ 

ผู้สมัครจะต้องนำใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 ใบยืนยันการนัดหมาย หนังสือเดินทาง (ทั้งเล่มเก่าและปัจจุบัน) รูปถ่ายสี ขนาด2×2 พื้นหลังสีขาวที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน และเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วย

ขั้นตอนที่ 7 : การส่งคืนเล่มหนังสือเดินทาง

หากสัมภาษณ์วีซ่าผ่าน ผู้สมัครจะไม่ได้รับวีซ่าทันทีในวันสัมภาษณ์ โดยผู้สมัครจะได้รับเล่มหนังสือเดินทางพร้อมกับวีซ่าโดยการจัดส่งจากทางไปรษณีย์ไทย เมื่อได้รับหนังสือเดินทางแล้ว กรุณาตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูล

     ทางสถานทูตฯ ขอเน้นว่า ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปประเทศสหรัฐฯ ทุกท่านควรเผื่อเวลาในการยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าก่อนการเดินทาง และไม่ควรจองตั๋วเครื่องบินหรือวางแผนการเดินทางใดๆ ที่ยกเลิกไม่ได้ ก่อนที่ท่านจะได้รับหนังสือเดินทางที่มีวีซ่าสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว

ขั้นตอนการสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกา

  1. มาถึงสถานทูตฯ

    – เวลาที่แสดงบนจดหมายนัดคือเวลาที่ควรมาถึงหน้าสถานทูตฯ มิใช่เวลาที่จะได้รับการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล

    – ผู้สมัครควรมาถึงก่อนเวลาที่นัดไว้ 15 นาที (ไม่จำเป็นต้องมาก่อนเวลานานเกินไป)
  2. ตรวจสอบความเรียบร้อย และความปลอดภัย

    – ผู้สมัครจะต้องผ่านการตรวจสอบความเรียบร้อยและความปลอดภัย ได้แก่ นำสัมภาระติดตัวผ่านเครื่องสแกน เดินผ่านเครื่องสแกนวัตถุโลหะ ผู้สมัครควรนำแค่สิ่งของที่จำเป็นติดตัวมาในวันที่สัมภาษณ์

    – ผู้สมัครสามารถนำโทรศัพท์มาได้เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น โดยจะต้องฝากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้ ทางสถานทูตฯ และพนักงานรักษาความปลอดภัยจะไม่รับผิดชอบหากเกิดการสูญหายหรือเกิดความเสียหายใดๆ กับโทรศัพท์มือถือของท่านในขณะที่ฝากไว้กับพนักงานรักษาความปลอดภัย
  3. นั่งรอเรียกตามเวลานัดสัมภาษณ์ด้านหน้าบูธ

    – ยื่นหนังสือเดินทางให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำบูธ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและคืนหนังสือเดินทางมาพร้อมกับหมายเลขการจัดส่ง (แทร็กกิ้ง) ของไปรษณีย์ไทย
  4. ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลและเอกสาร

    – หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำบูธแล้ว ให้ผู้สมัครเข้าไปยังห้องรับรองการสัมภาษณ์ จากนั้นไปต่อแถวรอติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลและเอกสารที่หน้าต่าง 11-15

    – พิมพ์ลายนิ้วมือทั้งสองข้าง (4 นิ้วมือ ข้างซ้ายและขวา และ 2 นิ้วโป้ง)
  5. ยืนยันลายนิ้วมือ

    – ติดต่อที่หน้าต่าง 10 เพื่อยืนยันลายนิ้วมือ

    – หลังจากยืนยันลายนิ้วมือเรียบร้อย ให้ผู้สมัครไปต่อแถวรอสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล

สถานทูตสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่ไหน?

สถานทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพมหานคร

เลขที่ 95 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

เนื่องจากทางสถานทูตฯ ไม่มีที่จอดรถให้บริการ ผู้สมัครสามารถเดินทางมายังสถานทูตฯ ได้โดยการใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือ รถไฟฟ้าสถานีที่อยู่ใกล้สถานทูตฯ

  • สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต (ใช้ทางออกที่ 5 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที)


สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่

     387 ถนนวิชยานนท์ ตำบล ช้างม่อย อำเภอ เมือง เชียงใหม่ 50300

  • อยู่ตรงข้ามเทศบาลเชียงใหม่ ใกล้เจดีย์ขาว ติดริมแม่น้ำปิง

ข้อมูล :